การประเมินพัฒนาการมีหลายรูปแบบด้วยกัน ตั้งแต่เราเรียนมาไม่ว่าจะมีกี่รูปแบบ เราว่าวิธีการประเมินพัฒนาการที่ได้ผลดีคือการประเมินด้วยการสังเกต
การประเมินพัฒนาการด้วยการสังเกตพฤติกรรมเด็ก
การสังเกตอาจเกิดขึ้นเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างไม่เป็นทางการ หรืออาจมีการสังเกตอย่างเป็นทางการหรืออย่างเป็นระบบ การสังเกตเด็กอย่างเป็นระบบเกิดขึ้นเนื่องจาก ในสภาพจริงการจัดชั้นเรียนหนึ่งๆ
องค์ประกอบของการบันทึกการสังเกตพฤติกรรม
1. การบรรยายเหตุการณ์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือการบรรยายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่กำลังดำเนินการอยู่อย่างตรงไปตรงมาให้มากที่สุด
2. ความรู้สึกและความคิดเห็นส่วนตน
3. การตีความ แปลความตลอดถึงการสรุปพฤติกรรมการเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้จากการสังเกต
หลักในการบันทึกการสังเกต
1. การบันทึกการสังเกตจำเป็นต้องมีการบันทึกสภาวะแวดล้อมและพฤติกรรมต่างๆของเด็กรวมตลอดถึงพฤติกรรมของคนรอบข้างเด็กด้วย
2.การรายงานการบันทึกการสังเกตต้องมีการรายงาน ตามลำดับก่อนหลัง
3.การบันทึกการสังเกต ควรบรรยายสิ่งที่เด็กทำได้มากกว่าสิ่งที่เด็กทำไม่ได้
ข้อดีของการบันทึกการสังเกต
1.เด็กไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการอ่านและเขียน
2. เด็กจะไม่รู้สึกว่าตนกำลังถูกสังเกต หรือถูกบันทึกข้อมูลอยู่
3. กิจวัตรประจำวัน หรือตารางเวลาในการเรียน หรือการทำกิจกรรมของเด็กไม่มีการเปลี่ยนแปลง
4. ช่วยให้ครูได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมบางอย่างของเด็ก
5. เป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับจากนักการศึกษาปฐมวัยว่าเป็นวิธีที่เหมาะสม
ประเภทของการสังเกต
1.การสังเกตแบบบรรยาย การบันทึกขณะสังเกต เป็นการบันทึกพฤติกรรมที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยผู้สังเกตเป็นผู้จดบันทึกขณะที่เกิดขึ้นจริง การจดบันทึกแบบนี้ให้ประโยชน์มากในแง่ที่สามารถสะท้อนให้รู้พฤติกรรมและ พัฒนาการ
2.ระเบียนพฤติการณ์ เป็นการบันทึกพฤติกรรมของเด็กตามที่สังเกตได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยบันทึกหลังจากพฤติกรรมนั้นเกิดขึ้นและเป็นการบันทึกจากความทรงจำ
ข้อสำคัญของการสังเกต
จะต้องบันทึกตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริง โดยไม่แทรกข้อคิดเห็นหรือการประเมินของผู้สังเกต เนื้อหาของบันทึกพฤติกรรมแบบนี้มีส่วนประกอบสำคัญ คือ พฤติกรรมที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดที่ไหน เมื่อไร มีการพูด หรือการกระทำอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ดังนั้นการประเมินพัฒนาการโดยการสังเกต คือ บันทึกการสังเกตพฤติกรรมเด็กอย่างเป็นระบบ ในการประเมินผลพัฒนาการเด็กและถ้าผู้สังเกตมีความถี่ถ้วนในการสังเกตมากเท่าไร โอกาสที่ผู้สังเกตจะจัดการเรียนการสอนเพื่อสนองความต้องการของเด็กแต่ละคนก็ จะมีมากขึ้นเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น